ช่องทางการซื้อ

ครั้งแรกของซุปปลาทูน่าสกัด

#ZEAคุณค่าจากท้องทะเล

คุณค่าของปลาทูน่า

ปลาทูน่า เป็นปลาทะเลน้ำลึกตามธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่แต่ว่ายน้ำได้รวดเร็วและสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 3,000 ฟุต ปลาทูน่า
หายใจเอาออกซิเจนจากในน้ำ มีหลอดเลือดแดงและเส้นเล็กๆ ใกล้กล้ามเนื้อช่วยให้เลือดอุ่นขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการว่ายน้ำ
ที่รวดเร็วและแข็งแรง


ปลาทูน่า เป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยมและเต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหาร เป็นโปรตีนย่อยง่ายกว่าโปรตีนชนิดอื่นๆ มีคอเลสเตอรอลต่ำ
มีวิตามินและเกลือแร่สูง โดยเฉพาะวิตามินบี 12 ซิงค์ และซีลีเนียม รวมไปถึงกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่เป็นสารอาหารสำคัญในลำดับต้นๆ
ที่คนนึกถึง เพราะเป็นโครงสร้างทางไขมันที่สำคัญในสมองและร่างกายสร้างเองไม่ได้

เทคโนโลยี
นาโนฟิลเทรชั่น

ของ ZEA Tuna Essence

ZEA Tuna Essence ซุปปลาทูน่าสกัด ผลิตจากปลาทูน่าในทะเลน้ำลึกตามธรรมชาติ
ที่ผ่านการสกัดด้วยเทคโนโลยีนาโนฟิลเทรชั่น (Nanofiltration) เพื่อให้ได้
โปรตีนโมเลกุลขนาดเล็ก ดูดซึมนำไปใช้งานได้ง่าย


จากผลการวิเคราะห์ของสถาบัน Japan Food Research Laboratories* พบว่า
ZEA Tuna Essence มีน้ำหนักโมเลกุลของโปรตีนที่เล็กกว่า 500 ดาลตัน (Dalton)
คิดเป็น 77% ของโปรตีนโมเลกุลทั้งหมด


*สถาบัน Japan Food Research Laboratories ณ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
เป็นสถาบันการทดสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของโลก
ก่อตั้งในปี 1957

เทคโนโลยีนาโนฟิลเทรชั่น

ZEA Tuna Essence

1 ขวด
ให้ประโยชน์เต็มๆ

สารอาหารและคุณประโยชน์

คุณประโยชน์ทั่วไป
ของโอเมก้า 3
ต่อร่างกาย
MORE

เติมเต็มโอเมก้า 3 เติมเต็มให้สมอง


โอเมก้า 3 (Omega-3) กรดไขมันโอเมก้า 3 ได้แก่ ดีเอชเอ (DHA) และ อีพีเอ (EPA) เป็นกรดไขมันที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากอาหาร ซึ่งปลาทูน่า เป็นหนึ่งในแหล่งอาหารที่ดีที่สุดของกรดไขมันโอเมก้า 3 โดยปริมาณ EPA และ DHA รวมที่ควรได้รับต่อวัน คือ 2 กรัมต่อวัน

คุณประโยชน์
ของกรดไขมันโอเมก้า 3

ช่วยบำรุงสมอง

ชะลอความเสื่อมของสมอง ส่งผลให้สมองของเราสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งในเรื่องของกระบวนการเรียนรู้ การตัดสินใจและความจำ เนื่องจาก DHA ช่วยบำรุงสมองและเซลล์ประสาท และ EPA ช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ประสาท

ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
และหลอดเลือด

เนื่องจาก EPA ช่วยต้านการอักเสบและลดการเกาะตัวของลิ่มเลือดที่จะไปอุดตันตามหลอดเลือด รวมทั้งยังช่วยลดไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกัน
เป็นไปอย่างสมดุล

ช่วยให้การตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันให้เป็นไปอย่างสมดุล เนื่องจากกรดไขมันโอเมก้า 3 เกี่ยวข้องกับการผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว และสารในกลุ่มพรอสตาแกลนดินท์ในกระบวนการอักเสบ ให้ตอบสนองอย่างเหมาะสม

บรรเทาอาการนอนไม่หลับ
ช่วยให้ผ่อนคลาย

บรรเทาอาการนอนไม่หลับและอารมณ์ซึมเศร้า เนื่องจากกรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยในการหลั่งสารสื่อประสาทซีโรโตนิน (serotonin) ที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และอารมณ์ดี

ที่มา: ข้อมูล “สารอาหารและคุณประโยชน์ของปลาทูน่า” โดย ดร.วนะพร ทองโฉม
นักวิชาการโภชนาการ งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
มีส่วนช่วย
ในการทำงานตามปกติ
ของระบบประสาทและสมอง
MORE

สมองกับความต้องการวิตามินบี 12

วิตามินบี 12 (Vitamin B12) เป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับร่างกาย ปริมาณวิตามินบี 12 ที่ควรได้รับ คือ 2.4 ไมโครกรัมต่อวัน ซึ่งปลาทูน่าถือว่าเป็นแหล่งที่สำคัญของวิตามินบี 12 หากรับประทานปลาทูน่า 100 กรัม จะทำให้ได้รับวิตามินบี 12 สูงกว่าร้อยละ 80 ของปริมาณที่ควรจะได้รับต่อวัน

คุณประโยชน์ของวิตามินบี 12

ช่วยให้ระบบประสาทและสมอง
ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เนื่องจากวิตามินบี 12 เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในกระบวนการสร้างสารสื่อประสาทและการส่งสัญญาณประสาท การขาดวิตามินบี 12 มีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคสมองเสื่อม กระบวนการเรียนรู้ และการตัดสินใจทำงานแย่ลง

ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง

ป้องกันโรคโลหิตจางจากการขาดวิตามินบี 12

ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
และหลอดเลือด

เนื่องจากวิตามินบี 12 ช่วยลดปริมาณสารที่เป็นความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บเสียหายของหลอดเลือด
ที่นำไปสู่ภาวะหลอดเลือดแดงแข็งและหลอดเลือดเกิดการอุดตันได้

ที่มา: ข้อมูล “สารอาหารและคุณประโยชน์ของปลาทูน่า” โดย ดร.วนะพร ทองโฉม
นักวิชาการโภชนาการ งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
มีส่วนช่วย
ในการทำหน้าที่
ตามปกติของ
ระบบภูมิคุ้มกัน
MORE

มีซิงค์ยิ่งเสริมภูมิคุ้มกัน

ซิงค์ (Zinc) หรือแร่ธาตุสังกะสี มีความสำคัญกับกระบวนการทำงานของร่างกาย แร่ธาตุสังกะสีที่ได้จากแหล่งอาหารจากสัตว์จะดูดซึมได้ดีกว่าแหล่งอาหารจากพืช ซึ่งปลาทูน่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งอาหารที่สำคัญสำหรับแร่ธาตุสังกะสี โดยการรับประทานปลาทูน่าเพียง 100 กรัมจะทำให้ได้รับแร่ธาตุสังกะสีมากกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณที่ควรจะได้รับต่อวัน

คุณประโยชน์ของแร่ธาตุสังกะสี

ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายและป้องกันการติดเชื้อ เนื่องจากแร่ธาตุสังกะสีช่วยควบคุมการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย
ช่วยทำให้กระบวนทำงานของร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากแร่ธาตุสังกะสีเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการทำงานของเอนไซม์มากกว่า 1,000 ชนิด รวมทั้งทำงานร่วมกับฮอร์โมนที่สำคัญในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ที่ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ไทรอยด์ฮอร์โมน (Thyroid hormone) ที่ช่วยควบคุมการเผาผลาญและอุณหภูมิภายในร่างกาย โกรทฮอร์โมน (Growth hormone) ที่ช่วยควบคุมการเจริญเติบโตและการสร้างเซลล์ใหม่
ช่วยต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบภายในร่างกาย ซึ่งจะช่วยป้องกันความเสื่อมของจอประสาทตา และช่วยบำรุงสุขภาพผิวในกระบวนการสร้างและซ่อมแซมผิวหนังได้
ที่มา: ข้อมูล “สารอาหารและคุณประโยชน์ของปลาทูน่า” โดย ดร.วนะพร ทองโฉม
นักวิชาการโภชนาการ งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
มีส่วนช่วย
ในกระบวนการ
ต่อต้านและ
ปกป้องเซลล์
จากอนุมูลอิสระ
MORE

ซีลีเนียม
แร่ธาตุเพื่อร่างกายที่ยอดเยี่ยม

ซีลีเนียม (Selenium) เป็นอีกหนึ่งแร่ธาตุที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นองค์ประกอบของเอนไซม์และโปรตีนที่สำคัญ ซีลีเนียมพบมากในอาหารทะเล ซึ่งปลาทูน่าเป็นปลาทะเลน้ำลึกที่เป็นอีกหนึ่งแหล่งอาหารที่สำคัญสำหรับซีลีเนียม

คุณประโยชน์ของแร่ธาตุซีลีเนียม

ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เนื่องจากซีลีเนียมมีบทบาทสำคัญให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อการติดเชื้อหรือสิ่งแปลกปลอมได้อย่างเหมาะสม
ช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบสืบพันธุ์ เนื่องจากซีลีเนียมมีบทบาทสำคัญในกระบวนการสังเคราะห์ฮอร์โมนเพศชายและการสร้างสเปิร์มซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์ของเพศชาย
ช่วยต้านอนุมูลอิสระ เนื่องจากซีลีเนียมมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระและรักษาสมดุลในกระบวนการกำจัดอนุมูลอิสระ ส่งผลให้การกำจัดอนุมูลอิสระมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ช่วยชะลอความแก่และป้องกันโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็ง สมองเสื่อม
ช่วยควบคุมการทำงานฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาสติปัญญาและการเจริญเติบโต
ที่มา: ข้อมูล “สารอาหารและคุณประโยชน์ของปลาทูน่า” โดย ดร.วนะพร ทองโฉม
นักวิชาการโภชนาการ งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

คำแนะนำในการดื่ม

ZEA Tuna Essence มี 2 รสชาติ
แช่เย็นเพื่อรสชาติ
ที่ดียิ่งขึ้น
เมื่อเปิดแล้ว
ควรดื่มให้หมดทันที
เขย่าขวดก่อนดื่ม
ขนาดแนะนำ
1 ขวดต่อวัน

คำถามที่พบบ่อย

ZEA Tuna Essence แตกต่างจาก
ซุปสกัด อื่นๆ อย่างไร?

  • ZEA Tuna Essence แตกต่างจากซุปสกัดอื่นเพราะเป็นครั้งแรกของซุปสกัดที่ผลิตจากปลาทูน่าในทะเลน้ำลึกตามธรรมชาติ สกัดด้วยเทคโนโลยีนาโนฟิลเทรชั่น ทำให้ได้โปรตีนอนุภาคเล็ก ดูดซึมได้ง่าย อีกทั้งยังอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 วิตามินบี 12 ซิงค์ และซีลีเนียม 
  • ผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบวิเคราะห์คุณภาพและคุณค่าสารอาหารจากสถาบัน Japan Food Research Laboratories
    ณ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ZEA Tuna Essence มีสารอาหาร
ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอะไรบ้าง?

  • ZEA Tuna Essence เป็นผลิตภัณฑ์ซุปสกัดชนิดเดียวในตลาดที่มีโอเมก้า 3 ได้แก่ อีพีเอและดีเอชเอ และปริมาณวิตามินบี 12 ซิงค์และซีลีเนียมสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง และระบบภูมิคุ้มกัน

ZEA Tuna Essence
ผลิตจากวัตถุดิบอะไร มีที่มาอย่างไร?

  • ZEA Tuna Essence เป็นซุปสกัดที่ผลิตจากปลาทูน่าในทะเลน้ำลึกตามธรรมชาติ สกัดด้วยเทคโนโลยีนาโนฟิลเทรชั่น (Nanofiltration) ที่ผ่านการวิจัยและคิดค้นโดยศูนย์นวัตกรรมระดับโลก โมเลกุลของโปรตีนที่เล็กกว่า 500 ดาลตัน (Dalton) ที่ดูดซึมได้ง่าย

ขั้นตอนการผลิต ZEA Tuna Essence
เป็นอย่างไร?

  • สารสกัดเข้มข้นจากซุปปลาทูน่า ได้จากการสกัดโดยผ่านเทคโนโลยีนาโนฟิลเทรชั่น ซึ่งเป็นกระบวนการที่ช่วยคัดเลือกโปรตีนด้วยเมมเบรนระดับนาโน ทำให้ได้โปรตีนอนุภาคขนาดเล็กที่มีขนาด 300-600 Da (ดาลตัน) เป็นกระบวนการเทคโนโลยีที่ National Science Foundation (NSF) ให้การรับรอง จึงมั่นใจได้ว่าวิธีการผลิตมีความปลอดภัยและมีมาตรฐานที่ยอมรับในระดับสากล

ZEA Tuna Essence ได้รับการตรวจสอบ
มาตรฐานคุณภาพสินค้าจากที่ใด?

  • ผลิตภัณฑ์ ZEA Tuna Essence เป็นสินค้ามีคุณภาพและมาตรฐานในระดับสากล โดยผ่านการทดสอบวิเคราะห์คุณภาพและคุณค่าสารอาหาร ขนาดโมเลกุลของโปรตีน (molecular weight distribution) จากสถาบัน Japan Food Research Laboratories ณ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

ผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 สูตร มีความแตกต่างกันอย่างไร?

  • ZEA Tuna Essence ได้พัฒนา 2 รสชาติเพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ดื่มที่รักสุขภาพ รสออริจินัล เข้มข้น กลมกล่อม และรสแพชชั่นฟรุต อร่อย ดื่มง่าย โดยทั้ง 2 สูตรอุดมไปด้วยโอเมก้า 3 วิตามินบี 12 ซิงค์ และซีลีเนียมเช่นเดียวกัน

ZEA Tuna Essence เหมาะกับใครบ้าง?

  • ZEA Tuna Essence มีความปลอดภัยในการบริโภค สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย ในบุคคลที่มีสุขภาพที่ดีอยู่แล้ว สามารถทานเพื่อเพิ่มคุณประโยชน์ให้แก่ร่างกายและสมองได้ ด้วยโอเมก้า 3 วิตามินบี 12 ซิงค์ และซีลีเนียม จากปลาทูน่าทะเลน้ำลึก
  • สำหรับบุคคลที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เนื่องจากสภาวะร่างกายและการเจ็บป่วยจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

สตรีขณะตั้งครรภ์และและสตรีให้นมบุตร
สามารถทานได้หรือไม่?

  • สตรีมีครรภ์สามารถทาน ZEA Tuna Essence ได้ แต่แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เนื่องจากสภาวะร่างกายและการตั้งครรภ์จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

เด็กสามารถทานได้หรือไม่?

  • ZEA Tuna Essence เป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยสำหรับการบริโภคตามมาตรฐานของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา แต่ผลิตภัณฑ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับความต้องการของวัยผู้ใหญ่หรือเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป

ควรดื่ม ZEA Tuna Essence
ในเวลาไหน?

  • สามารถดื่ม ZEA Tuna Essence เป็นประจำทุกวัน วันละ 1 ขวด ในช่วงเวลาใดของวันก็ได้
  • แนะนำให้แช่เย็นเพื่อรสชาติที่ดีขึ้น เขย่าขวดก่อนดื่ม เมื่อเปิดแล้วควรดื่มให้หมดทันที

ถ้าบริโภคในปริมาณเกินกว่าที่แนะนำจะมีผลอย่างไร?

  • แนะนำให้ดื่ม ZEA Tuna Essence เป็นประจำวันละ 1 ขวด ได้ทั้งก่อนหรือหลังอาหาร ก็จะได้รับปริมาณวิตามินบี 12 เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายใน 1 วัน ซึ่งมีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบประสาทและสมอง

ZEA Tuna Essence มีปริมาณ
โซเดียมเท่าไร?

  • ปริมาณโซเดียมในผลิตภัณฑ์ ZEA Tuna Essence แต่ละขวดมีเพียง 3% ของ Thai RDI (ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคประจำวันสำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป)

ข้อมูลสำหรับผู้แพ้อาหารและคำเตือน

  • ZEA Tuna Essence มีส่วนประกอบของปลา นม และถั่วเหลือง
  • ห้ามใช้ในผู้ที่แพ้ปลาทะเลหรือน้ำมันปลา ควรระวังในผู้ที่เลือดแข็งตัวช้า หรือผู้ที่ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด หรือแอสไพริน

ZEA Tuna Essence
มีอายุสินค้านานแค่ไหน
และเก็บรักษาอย่างไร?

  • ผลิตภัณฑ์สามารถเก็บได้ในอุณหภูมิห้องโดย
    • ZEA Tuna Essence ออริจินัล มีอายุการเก็บรักษา 18 เดือน
    • ZEA Tuna Essence แพชชั่นฟรุต มีอายุการเก็บรักษา 18 เดือน